วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2552

ชุดเหนือ


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจกำลังเผยผลกำไรที่มากสุดเป็นประวัติการณ์ แต่พวกเขาก็ยังคงตามหลัง เรอัล มาดริด ในการจัดอันดับสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปีนี้ บรรดาสโมสร 20 อันดับแรก มีรายได้รวมเติบโตขึ้นราว 6 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 3.9 พันล้านยูโร ในฤดูกาล 2007/08 ก่อนประสบวิกฤติเศรษฐกิจโลกถดถอยอย่างเลวร้ายที่สุด แต่ความแข็งแกร่งของค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินปอนด์นั่นเองที่ช่วยให้ เรอัล มาดริด ยังคงรั้งตำแหน่งท็อปของการจัดอันดับ แม้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 21 เปอร์เซ็นต์ ก็ตาม จากการสำรวจและจัดอันดับประจำปีของบริษัทตรวจสอบบัญชี เดลวตต์ ที่จัดทำ ฟุตบอล มันนี ลีก ขึ้นมา บาร์เซโลนา มาเป็นอันดับ 3 ขณะที่ บาเยิร์น มิวนิก ปีนป่ายขึ้นมายืนเหนือ เชลซี อยู่ที่อันดับ 4 โดยสโมสรเจ้าบุญทุ่มของอังกฤษอยู่ที่ 5 และ อาร์เซนอล อันดับ 6 สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดว่ากำลังจะแถลงตัวเลขกำไร แต่ทาง เดอลวตต์ ทำนายว่า ทางสโมสรจะเผยรายได้อยู่ที่ราว 257 ล้านปอนด์ ในซีซั่น 2007/08 เทียบกับเมื่อ 12 เดือนก่อนหน้านั้นที่มีรายได้ที่ 210 ล้านปอนด์ แดน โจนส์ พาร์ตเนอร์ในกลุ่มธุรกิจกีฬาที่เดอลวตต์ กล่าวว่า "รายได้ของเรอัล มาดริด ที่เพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ ค่อนข้างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีหลังๆ แต่ทางสโมสรก็กินบุญเก่า เพราะเมื่อปี 2002 พีคสุดๆ รายได้เพิ่มขึ้นแบบเท่าตัว เมื่อรวมกับปัจจัยเรื่องค่าเงิน ตอนนี้เลยยังรวยกว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ 32.5 ล้านปอนด์ "เรอัล มาดริด ได้ประกาศว่า พวกเขาตั้งเป้าและคาดการณ์ตัวเลขรายได้ที่จะทำได้ถึง 400 ล้านยูโร (360 ล้านปอนด์) ในฤดูกาล 2008/09 ดังนั้น ต่อให้อีกปีผ่านไป การที่ทีมไหนจะแซงหน้าพวกเขาได้ในมันนี ลีก ก็ยังคงยากอยู่ดี" "ความสำเร็จของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และแชมเปี้ยนส์ลีก ส่งผลอย่างมากต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้นในฤดูกาล 2007/08 แต่การที่ค่าเงินปอนด์อ่อนลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร ทำให้พวกเขายังต้องรั้งอันดับ 2 ต่อไป" ทุกสโมสรในอังกฤษล้วนแล้วแต่ประสบปัญหาจากเรื่องของค่าเงิน อย่าง บาร์เซโลนา ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นแค่ 6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำอันดับแซงพรวดพราดขึ้นมาถึงที่ 3 ขณะที่ เชลซี กับ อาร์เซนอล รายได้เพิ่มขึ้น 11.5 เปอร์เซ็นต์ กับ 18 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ แต่อันดับก็ยังลดลงหนึ่งที่

ชุดภาคกลาง


ที่มาชุดไทยพระราชนิยม 8 ชุด
ในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จ-พระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ เมื่อพุทธศักราช 2503 ได้พระราชทานพระราชดำริว่า สมควรที่จะสรรค์สร้างการแต่งกายชุดไทยให้เป็นไปตามประเพณีที่ดีงาม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มีการศึกษา ค้นคว้าเครื่องแต่งกายสมัยต่าง ๆ จากพระฉายาลักษณ์ของเจ้านายฝ่ายใน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์ แต่ให้มีการปรับปรุงพัฒนาให้เหมาะสมกับ กาลสมัย ทรงเสนอรูปแบบที่หลากหลาย และได้ฉลองพระองค์เป็นแบบอย่าง ทั้งได้ พระราชทานให้ผู้ใกล้ชิดแต่งและเผยแพร่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เรียกกันโดยทั่วไปว่า "ชุดไทยพระราชนิยม" มี 8 ชุด คือ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยจักรี ชุดไทยดุสิต ชุดไทยจักรพรรดิ์ และชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยพระราชนิยมเหล่านี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงใช้ในโอกาส และสถานที่ต่าง ๆ จนเป็นที่รู้จักแพร่หลายและชื่นชมกันทั่วไป ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ